วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เครือข่ายคือ-ความหมายและความแตต่างLAN,MAN,WAN-ความแตกต่างอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต

      เครือข่ายคือ  เครื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปที่เชื่อมต่อกันและสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความหมายของ LAN , MAN , WAN
     LAN ย่อมาจากคำว่า (Local Area Network)
-ระบบเครือข่ายขนาดเล็ก เป็นระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์กที่ใช้เชื่อมต่อกันในระยะไม่ไกลมากนักโดยปกติมักเชื่อมต่อกันในระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตรคือเป็นระบบเน็ตเวิร์กที่อยู่ภายใต้อาคารเดียวกันหรือต่างอาคารในระยะใกล้ๆ และไม่ต้องใช้เครือข่ายการสื่อสารขององค์การ โทรศัพท์แห่งประเทศไทย

MAN ย่อมาจากคำว่า (Metropolitan Area Wetwork)
-ระบบเครือข่ายขนาดกลาง เป็ระบบเน็ตเวิร์กที่ต้องอาศัยโครงข่ายการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย เพราะเป็นการติดต่อกันในระดับเขต แต่เป็นระบบเน็ตเวิร์กในระยะไม่เกิน 50 กิโลเมตร

WAN ย่อมาจากคำว่า (Wide Area Network)
-ระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ เป็นระบบเน็ตเวิร์กที่มีการติดต่อสื่อสารกันในระดับประเทศ หรือติดตสื่อสารกันได้ทั่วทุกมุมโลกโดยทั่วไปเรียกว่า world wide web สามารถส่งได้ทั้ง ข้อมูล ภาพและเสียง โดยจะต้องใช้ media ในการติดต่อสื่อสารโดยจะต้องใช้ คู่สายโทรศัพท์ dial - up line คู่สายเช่า leased line / ISDN
ขององค์การโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทยจึงจะสามารถใช้อย่างสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพ
    อ้างอิงจาก..http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=277d1a90486d408b

ความหมายของอินเทอร์เน็ต
      อินเทอร์เน็ต ( Internet ) คือ เครือข่ายของคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วยกัน โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเชื่อมเครือข่าย ภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงด้วยโปรโตคอลเดียวกันคือ TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในอินเทอร์เน็ตสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ นับว่าเป็นเครือข่ายที่กว้างขวางที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีผู้นิยมใช้ โปรโตคอลอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลกมากที่สุด
   
      อินเทอร์เน็ต (Internet) นั้นย่อมาจากคำว่า International network หรือ Inter Connection  network หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเชื่อมโยงด้วย TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) เดียวกันเป็นข้อกำหนด เพื่อให้เกิดการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน วิธีการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายด้วยโปรโตคอลนี้จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่มีฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันสามารถติดต่อถึงกันได้
     อ้างอิงจาก..http://www.hitechsky.com/ความหมายอินเทอร์เน็ต/

     อินเตอร์เน็ต  (Internet) นั้นย่อมาจากคำว่า  “International network”  หรือ  “Inter Connection  network”  ซึ่งหมายถึง  เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน  เพื่อให้เกิดการสื่อสาร  และการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน  โดยอาศัยตัวเชื่อมเครือข่ายภายใต้มาตรฐานการเชื่อมโยงเดียวกัน  นั่นก็คือ  TCP/IP Protocol  ซึ่งเป็นข้อกำหนดวิธีการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่าย  ซึ่งโปรโตคอลนี้จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่มีฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันสามารถติดต่อถึงกันได้
การที่มีระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายข่าวสารข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ โดยไม่จำกัดระยะทาง  ส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบ  ทั้งข้อความตัวหนังสือ ภาพ และ เสียง โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนับเป็นอภิระบบเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่มาก มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลกเชื่อมต่อกับระบบ ทำให้คนในโลกทุกชาติทุกภาษาสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ โดยไม่ต้องเดินทางไป โลกทั้งโลกเปรียบเสมือนเป็นบ้านหนึ่งที่ทุกคนในบ้านสามารถพูดคุยกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย แต่เกิดประโยชน์ต่อสังคมโลกปัจจุบันมาก  
     อ้างอิงจาก..http://www.thaigoodview.com/node/90636

ความแตกต่างของ LAN , MAN , WAN
        LAN คือระบบเครือข่ายขนาดเล็ก เป็นระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์กที่ใช้เชื่อมต่อกันในระยะไม่ไกลมากนักโดยปกติมักเชื่อมต่อกันในระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตรคือเป็นระบบเน็ตเวิร์กที่อยู่ภายใต้อาคารเดียวกันหรือต่างอาคารในระยะใกล้ๆ
        MAN ย่อมาจากคำว่า Metropolitan Area Wetwork หรือระบบเครือข่ายขนาดกลาง เป็นระบบเน็ตเวิร์กที่ต้องอาศัยโครงข่ายการสื่อสารของผู้ให้บริการเพราะเป็นการติดต่อกันในระดับเขต เป็นระบบเน็ตเวิร์กในระยะไม่เกิน 50 กิโลเมตร
        WAN ย่อมาจากคำว่า Wide Area Network หรือระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ เป็นระบบเน็ตเวิร์กที่มีการติดต่อสื่อสารกันในระดับประเทศ หรือติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วทุกมุมโลกผ่านเครือข่าย Internet ที่มีการเข้ารหัสพิเศษหรือทำให้เป็นเน็ตเวิร์กส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network)
         มีเครือข่ายที่แตกต่างกัน
      อ้างอิงจาก...http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=07933d9634116d70

ความแตกต่าง ระหว่าง อินเทอร์เน็ต กับ อินทราเน็ต
       อินเทอร์เน็ต (Internet) อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เป็นล้าน ๆ เครื่องเชื่อมต่อเข้ากับระบบและยังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี อินเทอร์เน็ตมีผู้ใช้ทั่วโลกหลายร้อยล้านคน และผู้ใช้เหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันได้อย่างอิสระ โดยที่ระยะทางและเวลาไม่เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าดูข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกตีพิมพ์ในอินเทอร์เน็ตได้ อินเทอร์เน็ตเชื่อมแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจ มหาวิทยาลัย หน่วยงานของรัฐบาล หรือแม้กระทั่งแหล่งข้อมูลบุคคล องค์กรธุรกิจหลายองค์กรได้ใช้อินเทอร์เน็ตช่วยในการทำการค้า เช่น การติดต่อซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตหรืออีคอมเมิร์ช (E-Commerce) ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการทำธุรกิจที่กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่าและมีฐานลูกค้าที่ใหญ่มาก ส่วนข้อเสียของอินเทอร์เน็ตคือ ความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างที่แลกเปลี่ยนผ่านอินเทอร์เน็ตได้ อินเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอลที่เรียกว่า “TCP/IP (Transport Connection Protocol/Internet Protocol)” ในการสื่อสารข้อมูลผ่านเครือข่าย ซึ่งโปรโตคอลนี้เป็นผลจากโครงการหนึ่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โครงการนี้มีชื่อว่า ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ในปี ค.ศ.1975 จุดประสงค์ของโครงการนี้เพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกลกัน และภายหลังจึงได้กำหนดให้เป็นโปรโตคอลมาตรฐานในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นเครือข่ายสาธารณะ ซึ่งไม่มีผู้ใดหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง การเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ตต้องเชื่อมต่อผ่านองค์กรที่เรียกว่า “ISP (Internet Service Provider)” ซึ่งจะทำหน้าที่ให้บริการในการเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต นั่นคือ ข้อมูลทุกอย่างที่ส่งผ่านเครือข่าย ทุกคนสามารถดูได้ นอกเสียจากจะมีการเข้ารหัสลับซึ่งผู้ใช้ต้องทำเอง



อินทราเน็ต ตรงกันข้ามกับอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ตเป็นเครือข่ายส่วนบุคคลที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เช่น เว็บ, อีเมล, FTP เป็นต้น อินทราเน็ตใช้โปรโตคอล TCP/IP สำหรับการรับส่งข้อมูลเช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรโตคอลนี้สามารถใช้ได้กับฮาร์ดแวร์หลายประเภท และสายสัญญาณหลายประเภท ฮาร์ดแวร์ที่ใช้สร้างเครือข่ายไม่ใช่ปัจจัยหลักของอินทราเน็ต แต่เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำให้อินทราเน็ตทำงานได้ อินทราเน็ตเป็นเครือข่ายที่องค์กรสร้างขึ้นสำหรับให้พนักงานขององค์กรใช้เท่านั้น การแชร์ข้อมูลจะอยู่เฉพาะในอินทราเน็ตเท่านั้น หรือถ้ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับโลกภายนอกหรืออินเทอร์เน็ต องค์กรนั้นสามารถที่จะกำหนดนโยบายได้ ในขณะที่การแชร์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตนั้นยังไม่มีองค์กรใดที่สามารถควบคุมการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://wiki.nectec.or.th/dpu/CC613Students/SutassanaReport
http://www.chaiwbi.com/anet01/p01/p011/lan.jpg
http://www.courseware.ssru.ac.th/151/subject/4000107/4000107/pic/internet01.gif

เพิ่มเติม อินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต
หลักการทำงานของ Internet และ intranet
      การทำงานของ Intranet และ Internet ใช้หลักการเดียวกันก็คือการดึงข้อมูลเพื่อมาแสดงผล อธิบายเป็นภาษาพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ สมมติถ้าเราเข้าเว็บใดเว็บนึงเช่น การชมหน้าweb dek-d.com ผ่าน ie browser เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก็จะทำการ ดึงข้อมูล web dek-d.com จากคอมพิวเตอร์อีกเครื่องนึงซึ่งเราเรียกว่า SERVER ผ่านระบบ Network ( เครือข่าย ) ซึ่งตัว SERVER นั้นก็คือคอมพิวเตอร์ธรรมดา ๆ นี่เอง แต่จะต่างกันที่ความแรงที่เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็คือ ถ้าคอมที่เราใช้อยู่เป็น รถมอ'ไซด์ Fino เครื่องเซอร์เว่อก็จะเป็นระดับ แรมโบกินิ หรือ 4 สูบราคาแพงก็ได้ ( เด๋วอธิบายแยกให้จ้า )

อธิบายแบบสั้น ๆ สำหรับคนขี้เกียจอ่านจ้า
       Internet คือการเชื่อมโยงการใช้งานคอมพิวเตอร์ ทั่วโลก
       Intranet คือการเชื่อมโยงการใช้งานคอมพิวเตอร์ ระหว่าง/ในองค์กร หรือส่วนบุคคล ( ภายในอาคาร )

รากของคำว่า Internet มาจาก  Inter + Net
       Inter ย่อมาจาก Interntional  คือนา ๆ ชาติ
       Net ย่อมาจาก  Network    แปลว่าเครื่อข่าย
*ข้อมูลต่อไปนี้อ้างอิงมาจากหลายที่   ( บางที่ลืมไปแล้วว่าไปอ่านของใครมาต้องขออภัยเจ้าของบทความเก่ามา ณ ที่นี่ )
ความหมายของ INTRANET            อินทราเน็ตคือการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กันระหว่างองค์กร หรือภายในองค์กร โดยอาจคุ้นหรือผ่าน ๆ ตามาบ้างในชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น  Enterpries Network, Local Network แต่ชื่อเรียกที่อินเทรนด์กิ๊บเก๋สุด ๆ และนิยมเรียกใช้ ก็คือ INTRANET  ( อินทราเน็ต )  โดยนิยมใช้กันมากภายในองค์กรเนื่องจาก สามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้รวดเร็ว 



ขอบคุณครับ  หากมีข้อผิดพาดประการณ์ใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย!



วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วิธีการทำรูปให้โคงและบิดได้ โดย Photoshop shortcut





                                  วิธีการทำรูปให้โคงบิดได้

   1.ทำให้ภาพบัดตัวโคงงอได้ >> Ctrl+Tที่รูป >> คลิกขวาที่รูป >> Warp  แล้วก็สามารถทำได้เลย
   
        เราใช้ภาพ 3 ภาพมาทำ  ภาพในแก้วก็ใช้ Warp ทำ   ส่วนภาพที่โคงลงในแก้วใช้2ภาพ ภาพหนึ่งหันหัวขึ้น อีกภาพหันหัวลง แล้วใช้ Warp กับภาพข้างล่าง แล้วดึงได้ตามใจคุณ..ครับ

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วิธีการติดตั้งโปรแกรม Mozilla Firefox กับ วิธีการดาวน์โหลดและติดตั้ง Video Download Helper

 วิธีการติดตั้งโปรแกรม Mozilla Firefox
-เมื่อดาวน์โหลดMozilla Firefox เรียบร้อยแล้วให้ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ติดตั้งโปรแกรม















เมื่อปรากฎหน้านี้ให้คลิกที่ปุ่ม Next>


 คลิกเลือก Standard  แล้วคลิกปุ่ม  Next>
 
 ในหน้าจอนี้ ถ้าต้องการให้ Firefox เป็นโปรแกรมหลักสำหรับการเปิดเว็บไซต์
ให้คลิกที่ Use Firefox as my default web browser ถ้าไม่ต้องการก็ไม่ต้องคลิก
จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Install
 
 ในขั้นตอนนี้จะเป็นการติดตั้งโปรแกรมลงเครื่อง ใช้เวลา 10-15 นาที
 
 เมื่อติดตั้งโปรแกรมเสร็จจะปรากฎหน้าจอนี้ขึ้นมาให้คลิกที่ปุ่ม Finish

เมื่อเปิดใช้งานโปรแกรมครั้งแรก จะมีกรอบแสดงขึ้นมาให้ตั้งค่าการทำงาน ลักษณะนี้
 
 ให้คลิกเลือก Microsoft Internet Explorer แล้วคลิกที่ปุ่ม Next>
 
 คลิกเลือก Import your home page from Internet Explorer แล้วคลิกปุ่ม Next>

หน้านี้จะแสดงว่าได้มีการจัดเตรียมข้อมูลต่างๆเรียบร้อยแล้ว คลิกที่ปุ่ม Finish
       โปรแกรมจะติดตั้งโดยสมบูรณ์ พร้อมใช้งาน


วิธีการดาวน์โหลดและติดตั้งVideo Download Helper

เริ่มกันเลยครับ

เริ่มแรกด้วยวิธีง่ายๆในการค้นหาตัวโปรแกรมเพื่อให้เราติดตั้ง เราก็แค่พิมพ์ add ons
ใน google / Live search หรือตัวไหน ก็แล้วแต่ใครถนัด

Add-ons for Firefox  คลิกเข้าไปเลย








มีโปรแกรมเสริมให้เราเลือกใช้กับ Firefox มากมายในที่นี้เราเลือกเข้าไปที่
Download Management คลิกเข้าไปก็จะเจอ ขรธที่เขียนนี้มันเป็น Most popular
ก็เลยหาง่ายหน่อย คลิกที่ video Download Helper เพื่อ ไปดูรายละเอียดกัน... หากไม่อยากอ่าน
ก็ กดไปที่ +Add to Firefox เพื่อติดตั้งก็ได้

อ่านรายละเอียดกันแล้ว หากพอเข้าใจก็ คลิกที่ +Add to firefox เพื่อติดตั้งใส่คอมฯของเรากัน

Firefox อาจจะมีคำถามเพื่อความปลอดภัยในการติดตั้งโปรแกรมขึ้นมาอยู่ทีเราแล้วล่ะ ว่าจะไปต่อ หรือจะยกเลิก


เมื่อติดตั้งเสร็จ เป็นธรรมดาที่ Firefox จะทำการปิดโปรแกรม แล้วเปิดขึ้นใหม่ เพื่อเรียกใช้ใช้โปรแกรมที่เราติดตั้งนั้น ตอนนี้มันอาจลิงค์ไปที่เว็บไซต์ของเจ้าของผลิตภัณฑ์ให้เราได้รู้จัก แต่ที่สำคัญคือ มันจะมีสัญลักษณ์ วงกลม3สีกลิ้งไปมาที่แถบเมนูของเรา แสดงว่า ใช้งานได้แล้ว
เราลองใช้กัน ผมยกตัวอย่างในYoutube เราจะเห็น 2 ตำแหน่ง คือที่แถบเมนู กับที่ตัวแสดงในจอ วีดีโอ
ถ้า เราคลิ๊กที่ หน้าวีดีโอ มันก็จะทำการDownload ทันที และมันจะบันทึกคุณภาพของวีดีโอตามที่หน้าจอแสดง ดังนั้น ผมขอแนะนำให้กดที่แถบเมนู จะดีกว่า


เราจะเห็นมีลูกศรสามเหลี่ยมตรงแถบเมนู เมื่อเราคลิ๊กดู จะปรากฎ รายการให้เราเลือกอย่างด้านบน นั่นก็คือ คุณภาพของวีดีโอนั้น หากเป็นการอัพโหลดด้วยคุณภาพสูงๆเราก็จะได้เห็นเช่นกัน แต่วิดีโอเก่าๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ แค่ 240p/360p หรือสูงสุดก็แค่ 480p เท่านั้น
เมื่อ เลือกคุณภาพได้แล้วก็ขยับเม้าส์ไปข้างๆ ก็จะเจอหน้าต่าง วิธีDownload แล้วแต่เราจะเลือก ก็แล้วกัน... หน้าจอจะแสดงหน้าต่างว่าเรามีการDownloadอะไรอยู่บ้าง..แค่นี้เราก็สามารถDownloadวีดีโอไว้ดูตอนที่ไม่ได้ออนไลน์ได้แล้ว
 ***********จะหาไฟล์ที่เราดาวน์โหลดมา ได้อย่างไร***********



จากหน้าโปรแกรมของ Firefox ไปที่ปุ่ม เครื่องมือ พอคลิ๊กจะเจอ อย่างภาพบน เราสามารถตั้งค่าของ ตัวAdd-ons ตัวนี้ได้ ถ้าอยากดูไฟล์ที่บันทึก ก็กดที่ Open download folder ก็จะปรากฏไฟล์ออกมา  หรือ..เข้าไปที่ C:\Documents and Settings\..(folderที่เก็บ).. คลิ๊กเข้าไปจะเจอ dwhelper ที่เก็บไฟล์ที่เราบันทึกไว้



ก็จะเจอไฟล์วีดีโอที่เราDownloadไว้ จะเรียกดู หรือเอาไปเก็บที่อื่น ก็ตามใจ ครับ



วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

งานตัดต่อ สุภาพบุรุษ ไอที่




วีธีการตัดต่อ

1.ก่อนอื่นต้องเปิดไฟล์ขึ้นมาก่อนไปที่ File >> New.. เลือกขนาดกระกาษ แล้วก็ OK
2.File >> Open เลือกภาพที่เราต้องการมา 
3.เลือก Magnetic Lasso Tool (L) แล้วคลิกแล้วลากรูปที่เราต้องการตัด
4.เลือก Move Tool (V) เพื่อตัดดึงมันมาใส่หน้าที่เราเตรียมไว้
5. เลือก Backgeround Eraser Tool E เพื่อใช้ลบส่วนเกิน
6.ปรับสี Image >> Adiustments >> ทั้งหมดคือตัวปรับสี
7.ถ้าจะทำภาพเบลอ Filter >> blur >> Gaussian blur... >> Radius:เพื่อปรับความ เบลอ  เสร็จแล้วให้คลิก OK
ทำสวยไม่สวยแล้วแต่ฝีมือตัวเองนะครับ....

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การติดตั้ง photoshop cs5

*ดาวน์โหลดและขยายไฟล์
*เปิดโฟลเดอร์ Adobe photoshop cs5
*ดับเบิ้ลคลิกแล้วเรียกใช้ set-up.exe
*มันจะโหลดและเปิดโปรแกรมติดตั้ง Adobe
*เมื่อ Adobe lnstaller ใช้คลิก ยอมรับ
*ห้ามใส่หมายเลขซีเรียล เลือกติดตั้งผลิตภัณฑ์นี้เป็นทดลองใช้ เลือกภาษาจากนั้นคลิกถัดไป
*คลิกติดตั้งและรอจนติดตั้งเสร็จสมบูรณ์
*ถ้าAdobe lnstaller ขอให้เปิดเบราว์เซอร์ของคุณแล้วทำเช่นนั้นแล้วคลิก ต่อเนื่อง
*เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วคลิก เสร็จสิ้น

การติดตั้ง Dreamweaver CS4

การติดตั้ง Dreamweaver CS4

  •  ให้ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ติดตั้งโปรแกรม Dreamweaver CS4 
  • จะเข้าสู่การติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ที่อยุ่ในชุด Adobe Master Collection ให้รอสักครู่
  • โปรแกรมจะตรวจสอบสเปกของเครื่องคอมพิวเตอร์  โดยหากตรงตามที่กำหนดไว้ก็จะปรากฏหน้าจอ Welcome ขึ้นมา
  • คลิกเลือก Enter your serial number......  พร้อมทั้งพิมพ์รหัสของโปรแกรม  ลงในช่องว่าง หรือเลือก Use  ... a trial basis เพื่อทดลองใช้งานโปรแกรม 30 วัน 
  • คลิกปุ่ม Next เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป
  • คลิกปุ่ม Accept เพื่อตกลงยอมรับเงื่อนไงเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
  • คลิกเลือก Easy install  เพื่อติดตั้งดโปรแกรมทั้งหมดที่อยู่ในชุด  Adobe Master collection หรือเลือก  custom install เพื่อเลือกติดตั้งโปรแกรมต่างๆ เอง
  • คลิกปุ่ม install เพื่อเริ่มติดตั้งโปรแกรม 
  • โปรแกรมจะเริ่มติดตั้งลงในเครื่อง ให้รอสักครู่
  • คลิกปุ่ม Quit  เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม